ดูหนัง Oppenheimer (2023) ออพเพนไฮเมอร์

รีวิว Oppenheimer (2023) ภาพยนตร์ชีวประวัติที่พลิกโฉมวงการหนัง ด้วยวิสัยทัศน์ระดับปรมาณู

คำค้น: Oppenheimer รีวิว, Christopher Nolan, Cillian Murphy, ภาพยนตร์ชีวประวัติ, Oppenheimer 2023, รีวิวหนังใหม่, หนังดราม่าประวัติศาสตร์


บทนำ: เมื่อวิทยาศาสตร์กลายเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ

เมื่อพูดถึงภาพยนตร์ชีวประวัติที่สร้างแรงสะเทือนทั้งในแง่ภาพยนตร์และจิตวิญญาณของผู้ชม คงไม่มีเรื่องใดในปี 2023 ที่โดดเด่นเท่า Oppenheimer ผลงานของผู้กำกับชื่อดัง Christopher Nolan ที่เล่าเรื่องชีวิตของ J. Robert Oppenheimer นักฟิสิกส์ทฤษฎีผู้ได้รับการขนานนามว่า “บิดาแห่งระเบิดปรมาณู” โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงแต่ถ่ายทอดเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังตั้งคำถามทางศีลธรรมและจริยธรรมที่ยังสะท้อนก้องถึงปัจจุบัน


ข้อมูลทั่วไปของภาพยนตร์

  • ชื่อเรื่อง: Oppenheimer

  • ปีที่เข้าฉาย: 2023

  • ผู้กำกับ / เขียนบท: Christopher Nolan (อิงจากหนังสือ American Prometheus)

  • นักแสดงนำ:

    • Cillian Murphy รับบท J. Robert Oppenheimer

    • Robert Downey Jr. รับบท Lewis Strauss

    • Emily Blunt รับบท Kitty Oppenheimer

    • Florence Pugh รับบท Jean Tatlock

    • Matt Damon รับบท General Leslie Groves

  • ความยาว: 181 นาที

  • ประเภท: ดราม่า, ประวัติศาสตร์, ชีวประวัติ

  • เรตติ้ง: R (เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่)


โครงสร้างการเล่าเรื่องที่ท้าทายและแตกต่าง

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Oppenheimer มีเอกลักษณ์คือการเล่าเรื่องแบบ non-linear สลับช่วงเวลาระหว่างอดีตและปัจจุบันอย่างชาญฉลาด โดยแบ่งออกเป็น 2 เส้นเรื่องหลัก คือ:

  1. เส้นเรื่องส่วนตัว: บอกเล่าการเติบโตของ Oppenheimer ทั้งด้านวิชาการและชีวิตส่วนตัว ไปจนถึงช่วงที่เขาเป็นผู้นำโครงการแมนฮัตตัน

  2. เส้นเรื่องการเมือง: เหตุการณ์ไต่สวนหลังสงคราม เมื่อเขาถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรม ความภักดี และบทบาทของเขาในระเบียบโลกใหม่

การสลับช่วงเวลาและโทนสี (สี–ขาวดำ) กลายเป็นลูกเล่นทางภาพยนตร์ที่มีพลังในการสร้างอารมณ์และชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง


การแสดง: การระเบิดของพลังนักแสดง

  • Cillian Murphy ถ่ายทอดความซับซ้อนของ Oppenheimer ได้ลึกซึ้ง ตั้งแต่ความทะเยอทะยาน ไปจนถึงความรู้สึกผิดในจิตใจ เป็นการแสดงที่ทั้งนิ่งลึกและทรงพลังจนคว้ารางวัลออสการ์

  • Robert Downey Jr. ในบท Lewis Strauss สร้างตัวละครที่ดูเป็นผู้มีอำนาจแต่ซ่อนความแค้นได้แนบเนียน คว้ารางวัลสมทบชายยอดเยี่ยมจากหลายเวที

  • Emily Blunt และ Florence Pugh แม้มีบทไม่มาก แต่ต่างทำหน้าที่เติมเต็มมิติทางอารมณ์ให้กับตัวเอกได้อย่างยอดเยี่ยม


งานสร้างระดับสูง: กำกับ ภาพ เสียง ดนตรี

  • Christopher Nolan ยังคงไว้ซึ่งลายเซ็นการกำกับที่เน้นประสบการณ์ภาพและเสียง ด้วยการถ่ายทำระบบ IMAX 65mm ที่ให้ความละเอียดเหนือชั้นในทุกเฟรม

  • Hoyte van Hoytema ผู้กำกับภาพ ถ่ายทอดความอลังการและความอึดอัดของช่วงเวลาประวัติศาสตร์ได้อย่างทรงพลัง โดยเฉพาะฉากทดลองระเบิด Trinity ที่กลายเป็นฉากในตำนาน

  • Ludwig Göransson ประพันธ์ดนตรีประกอบที่กระแทกอารมณ์ ใช้เสียงเครื่องสายสลับเสียงเบสลึก ๆ เสริมความกดดันและความสับสนภายในใจของตัวละครหลัก


ธีมหลัก: วิทยาศาสตร์กับความรับผิดชอบ

Oppenheimer ไม่ได้เป็นเพียงภาพยนตร์ชีวประวัติ แต่ยังเป็นภาพยนตร์ปรัชญาที่ตั้งคำถามลึกซึ้ง เช่น:

  • “นักวิทยาศาสตร์ควรรับผิดชอบกับผลลัพธ์ของการค้นพบของตนแค่ไหน?”

  • “จริยธรรมควรอยู่เหนือการเมืองหรือไม่?”

คำพูดคลาสสิกอย่าง “Now I am become Death, the destroyer of worlds” สะท้อนความรู้สึกผิดที่ฝังลึกในจิตใจของ Oppenheimer ได้อย่างเจ็บปวด


จุดแข็งของ Oppenheimer

  • การแสดงระดับมาสเตอร์คลาส

  • งานกำกับภาพและเสียงที่ยอดเยี่ยม

  • การเล่าเรื่องซับซ้อนแต่เข้าใจง่ายด้วยโครงสร้าง 2 เส้นเรื่อง

  • ธีมที่ชวนตั้งคำถามและกระตุ้นความคิด

ข้อสังเกต

  • ความยาวของหนังอาจทำให้ผู้ชมบางส่วนรู้สึกอ่อนล้า

  • ต้องใช้สมาธิและความเข้าใจในประวัติศาสตร์พอสมควรในการติดตาม


รางวัลและกระแสตอบรับ

  • 11 รางวัลออสการ์ รวมถึง: ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

  • รายได้ทั่วโลกกว่า $960 ล้าน ดันขึ้นเป็นภาพยนตร์ชีวประวัติที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล

  • คะแนนวิจารณ์สูงลิ่วจาก Rotten Tomatoes และ IMDb


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: Oppenheimer เหมาะกับใคร?
A: เหมาะกับผู้ชมที่ชื่นชอบหนังดราม่าเชิงประวัติศาสตร์ หนังปรัชญา และผู้ที่สนใจด้านวิทยาศาสตร์และการเมืองระหว่างสงครามโลก

Q: จำเป็นต้องรู้ประวัติล่วงหน้าหรือไม่?
A: ไม่จำเป็น แต่ถ้ามีพื้นฐานเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 จะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวลึกซึ้งขึ้น

Q: หนังมีฉากแอ็กชันหรือไม่?
A: ไม่มีฉากแอ็กชันในแบบทั่วไป หนังเน้นการสร้างความตึงเครียดผ่านบทสนทนาและการตัดต่อมากกว่า


สรุป: Oppenheimer คือประสบการณ์ที่ทุกคนควรดูสักครั้งในชีวิต

Oppenheimer (2023) คือผลงานที่เกินคำว่า “ภาพยนตร์” แต่เป็นการตั้งคำถามกับมนุษยชาติ เป็นบทกวีของผู้ที่สร้างเครื่องมือทำลายล้าง แต่กลับกลายเป็นผู้ที่ถูกทำลายจากภายในตัวเอง หากคุณมองหาหนังที่ให้ทั้งความรู้ ความรู้สึก และแรงบันดาลใจ Oppenheimer คือคำตอบ

ให้คะแนน: 9.5/10