รีวิวภาพยนตร์ Following (1998) แกะรอยอาชญากรซ่อนเขี้ยว

Following” (1998) เป็นภาพยนตร์เปิดตัวครั้งแรกของผู้กำกับคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่ได้รับการยอมรับในฐานะงานสร้างภาพยนตร์ที่ฉลาด มีเอกลักษณ์ และเต็มไปด้วยความลึกลับ แม้จะเป็นผลงานทุนต่ำ แต่ “Following” แสดงให้เห็นถึงฝีมือและสไตล์การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนซึ่งกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของโนแลนในเวลาต่อมา ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความยาวเพียง 70 นาที แต่เต็มไปด้วยความลุ้นระทึก การหักมุม และองค์ประกอบของความเป็นฟิล์มนัวร์ที่ทำให้ผู้ชมต้องจดจ่อจนถึงวินาทีสุดท้าย

เรื่องย่อ

“Following” บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มผู้ไม่มีชื่อ (รับบทโดยเจเรมี ธีโอบัลด์) นักเขียนที่ขาดแรงบันดาลใจ เขามีนิสัยแปลกประหลาดในการติดตามคนแปลกหน้าในชีวิตประจำวันเพื่อหาวัตถุดิบสำหรับงานเขียนของเขา แต่สิ่งต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเขาได้พบกับคอบบ์ (รับบทโดยอเล็กซ์ ฮอว์) ชายหนุ่มลึกลับผู้เป็นนักย่องเบามืออาชีพ คอบบ์ชักชวนให้เขาเข้าสู่โลกของการขโมยและการแอบเข้าไปในชีวิตของผู้อื่น แต่ในขณะที่เขาเข้าไปพัวพันมากขึ้นเรื่อย ๆ เขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นหมากตัวหนึ่งในแผนการที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการหลอกลวง

จุดเด่นของภาพยนตร์

1. การเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและฉลาด

“Following” ใช้โครงสร้างการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงตามลำดับเวลา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่โนแลนใช้ในภาพยนตร์หลายเรื่องในอนาคต เช่น “Memento” (2000) และ “Inception” (2010) การเล่าเรื่องแบบตัดสลับระหว่างเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบันช่วยสร้างความลึกลับและทำให้ผู้ชมต้องคิดตามตลอดเวลา แม้จะเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อน แต่โนแลนสามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เรื่องราวไม่ยากเกินไปที่จะติดตาม

2. ธีมของความหมกมุ่นและความเป็นตัวตน

ภาพยนตร์สำรวจประเด็นเกี่ยวกับความหมกมุ่นและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการค้นหาความหมายและตัวตนในชีวิต ตัวเอกของเรื่องถูกดึงดูดเข้าสู่โลกของการย่องเบาเพราะความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาที่จะเข้าใจชีวิตของผู้อื่น แต่เขากลับต้องเผชิญกับความซับซ้อนของมนุษย์และผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

3. การถ่ายทำที่มีเอกลักษณ์

แม้จะมีงบประมาณจำกัด แต่ “Following” ใช้การถ่ายทำขาวดำเพื่อสร้างบรรยากาศที่มืดมนและลึกลับ ซึ่งเข้ากับธีมของภาพยนตร์ การถ่ายทำในสถานที่จริงในกรุงลอนดอนช่วยเพิ่มความรู้สึกของความเป็นจริงและความดิบของเรื่องราว อีกทั้งการจัดแสงและมุมกล้องที่เรียบง่ายแต่มีความคิดสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับฉากต่าง ๆ

4. การแสดงที่ทรงพลัง

เจเรมี ธีโอบัลด์ รับบทเป็นตัวเอกของเรื่องได้อย่างน่าเชื่อถือ เขาถ่ายทอดความไร้เดียงสาและความหมกมุ่นของตัวละครได้อย่างดี ขณะที่อเล็กซ์ ฮอว์ ในบทคอบบ์ สร้างความประทับใจในบทบาทของนักย่องเบาผู้เจ้าเล่ห์และลึกลับ การแสดงของทั้งสองคนช่วยเสริมสร้างความลึกลับและความตึงเครียดของภาพยนตร์

ธีมและแนวคิดที่สำคัญ

1. การหลอกลวงและความเชื่อใจ

“Following” แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของความเชื่อใจและผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อถูกทรยศ ตัวละครหลักถูกหลอกลวงและใช้งานโดยคอบบ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของมนุษย์และการที่เรามักหลงเชื่อในสิ่งที่เราอยากเชื่อ

2. ผลกระทบของการเลือกผิดพลาด

ตัวเอกของเรื่องต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่เลวร้ายจากการเลือกที่จะเข้าไปพัวพันกับโลกของการย่องเบา “Following” สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการตัดสินใจที่ไม่คิดรอบคอบและความยากลำบากในการหลุดพ้นจากวงจรที่เกิดขึ้น

จุดเด่นและจุดด้อย

จุดเด่น

  1. การเล่าเรื่องที่ฉลาดและซับซ้อน: โครงสร้างการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับเวลาเพิ่มความน่าสนใจและความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว

  2. บรรยากาศที่มืดมนและลึกลับ: การถ่ายทำขาวดำและการจัดแสงช่วยเสริมสร้างอารมณ์ของภาพยนตร์

  3. การแสดงที่น่าประทับใจ: นักแสดงทุกคนสามารถถ่ายทอดตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเป็นงานทุนต่ำ

จุดด้อย

  1. การพัฒนาตัวละครที่จำกัด: เนื่องจากระยะเวลาของภาพยนตร์ค่อนข้างสั้น บางตัวละครอาจไม่ได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้งเท่าที่ควร

  2. การเล่าเรื่องที่อาจสับสน: สำหรับผู้ชมที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่าเรื่องแบบไม่เรียงลำดับเวลา อาจรู้สึกว่ายากที่จะติดตาม

สรุปรีวิว

“Following” เป็นผลงานเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและสไตล์การเล่าเรื่องที่โดดเด่น แม้จะเป็นภาพยนตร์ทุนต่ำ แต่ความคิดสร้างสรรค์และการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดทำให้ “Following” เป็นภาพยนตร์ที่น่าชมและน่าจดจำ สำหรับแฟน ๆ ของโนแลนหรือผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวฟิล์มนัวร์และลึกลับ “Following” เป็นผลงานที่ไม่ควรพลาด

รีวิวคะแนนจาก IMDb : 7.4/10

รีวิวจาก Rotten Tomatoes 85%